ช้อปช่วยชาติ 2559

ช้อปพื้นไวนิลกราซิโอ้วันนี้!!! สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 เลยนะคะ :)

                   

ช้อปช่วยชาติ 2559 มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?

                    

(1) กำหนดให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนาค่าใช้จ่ายเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือ ค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 มาหักลดหย่อนได้ตามจานวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท

                    

(2) ผู้มีเงินได้ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการและชาระราคาค่าสินค้าหรือค่าบริการ ในช่วงเวลา ดังกล่าว และต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกากับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร

                    

(3) การซื้อสินค้าหรือรับบริการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเป็นการซื้อสินค้าเพื่อใช้ ในประเทศหรือบริการเพื่อใช้ในประเทศเท่านั้น และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 7 แต่สินค้านั้น ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ามัน ก๊าซสาหรับเติมยานพาหนะ และ การบริการนั้นไม่รวมถึงการจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนาเที่ยวและ มัคคุเทศก์สาหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และการจ่ายค่าที่พัก ในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

 
 
 

ผลงานการติดตั้ง สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมทักไลน์ @gracio เข้ามาคุยกันก่อนได้นะคะ

ผลงานการติดตั้งโฮสเทล

ผลงานการติดคอนโด

ผลงานการติดตั้งหมู่บ้าน

ผลงานการติดร้านอาหาร

 

 

หรือ โทร 02-742-7575

 

 

ตารางแสดงรายการสินค้าและบริการที่สามารถนามาหักเป็นค่าลดหย่อนทางภาษีตามมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2559 (วันที่ 14 ธ.ค. 59 – วันที่ 31 ธ.ค. 59)    

 

คำถามที่ถูกถามบ่อย :FAQ

Q 1 : มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2559 เป็นการให้สิทธิประโยชน์อะไร

                    

A : ผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา สามารถนาเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าและประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 มาหักเป็น ค่าลดหย่อนในการคานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจาปีภาษี 2559 ไดต้ ามจานวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท

                    

Q2: การให้หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในระหว่างวันที่14ธันวาคม2559ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข อย่างไร

                    

A : การหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ มีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ดังนี้

1. ผู้มีเงินได้ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการ และชาระราคาค่าสินค้าหรือค่าบริการระหว่างวันที่ 14 – 31ธันวาคม 2559

2. ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานเป็นใบกากับภาษีแบบเต็มรูปตาม มาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร(มีชื่อ ที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการในใบกากับภาษี)

3. เป็นการซื้อสินค้าหรือบริการเพื่อใช้ในประเทศเท่านั้น และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 4. สินค้าและบริการนั้น ไม่รวมถึง

                    

(1) การซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ามันและก๊าซสาหรับเติมยานพาหนะ (2) การจ่ายค่าบริการนาเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว และการจ่ายค่าที่พักในโรงแรม

                    

Q 3 : ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการใดบ้าง ที่สามารถนามาหักลดหย่อนได้ตามมาตรการน้ี

                    

A :     1. สินค้าทุกประเภท ยกเว้น การซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ามัน และ ก๊าซสาหรับเติมยานพาหนะ

                    

2. บริการทุกประเภท ยกเว้น ค่าบริการนาเที่ยวและค่าที่พักโรงแรม

                    

ทั้งนี้ สินค้าและบริการนั้นต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 และ ต้องชาระค่าสินค้าและใช้บริการ ระหว่างวันที่ 14 - 31 ธันวาคม 2559

                    

Q4: กรณีชาระค่าบริการระหว่างวันที่14-31ธันวาคม2559แต่ได้ใช้บริการหลังวันที่31ธันวาคม 2559 จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้หรือไม่

                    

A: ไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากต้องชาระค่าบริการและใช้บริการในช่วงวันที่14-31ธันวาคม2559เท่านั้น

                    

Q 5 : กรณีจ่ายค่าที่พักโรงแรม หรือจ่ายค่าบริการนาเที่ยว ระหว่างวันที่ 14 - 31 ธันวาคม 2559 สามารถ ใช้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ ได้หรือไม่

                    

A: ไม่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้เนื่องจากการจ่ายค่าบริการนั้นไม่รวมถึงการจ่ายค่าที่พัก โรงแรม และค่าบริการนาเที่ยว อย่างไรก็ดี ผู้เสียภาษีสามารถนาค่าที่พักโรงแรมและค่าบริการนาเที่ยว ไปหัก ลดหย่อนได้ตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว (กฎกระทรวงฉบับที่ 316 และ 322)

                

                    

Q 6 : ต้องใช้หลักฐานใด ในการใช้สิทธิหักลดหย่อน

A : หลักฐานที่ใช้ คือ ใบกากับภาษีแบบเต็มรูป ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร (ใบกากับภาษีที่มี

                    

ข้อความระบุชื่อ ที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ)

                    

Q 7 : ใบกากับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ที่สามารถนามาใช้เป็นหลักฐาน ในการหักลดหย่อน หมายถึงอะไร

                    

A : ใบกากับภาษีที่มีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้

(1) คาว่า "ใบกากับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด

(2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจาตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกากับภาษี

(3) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ

(4) หมายเลขลาดับของใบกากับภาษี และหมายเลขลาดับของเล่ม (ถ้ามี)

(5) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ

(6) จานวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คานวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของ

                    

สินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง

(7) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกากับภาษี

(8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกาหนด เช่น คาว่าเอกสารออกเป็นชุด สาเนาใบกากับภาษี ฯลฯ

                    

Q 8 : ใบกากับภาษีมีข้อความไม่สมบูรณ์เช่นเขียนชื่อหรือที่อยู่ผู้ซื้อสินค้าผิดหรือมีการแก้ไขสามารถ นามาใช้หักลดหย่อนได้หรือไม่

                    

A : หากใบกำกับภาษ นั่นมีรายการครบถ้วนตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร แม้จะการเขียนชื่อ หรือที่อยู่ ผู้ซื้อสินค้าผิด หรือมีการแก้ไขข้อความ ก็สามารถใช้หักลดหย่อนได้

                    

Q 9 : กรณีซื้อสินค้าหรือชาระค่าบริการหลายครั้ง (มีใบกากับภาษีหลายใบ) ระหว่างวันที่ 14 - 31 ธันวาคม 2559 จะสามารถนามูลค่าการซื้อสินค้าหรือชาระค่าบริการแต่ละครั้งมารวมกันเพื่อใช้สิทธิได้หรือไม่

                    

A : การซื้อสินค้าหรือค่าบริการในแต่ละครั้งหากมีมูลค่าไม่ถึง15,000 บาทสามารถนาการซื้อหลายครั้งมา รวมกันได้ แต่ใช้สิทธิได้ไม่เกิน 15,000 บาท

                  

Q 10 : กรณีใบกากับภาษีมีทั้งรายการสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจะหัก ลดหย่อนอย่างไร

                    

A : สามารถนามาหักลดหย่อนได้เฉพาะค่าสินค้าและค่าบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม  

                

            

        

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมสรรพากร

 

 

เพิ่มเพื่อน